- 休闲
ปภ.ประชุมชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
时间:2010-12-5 17:23:32 作者:热点 来源:休闲 查看: 评论:0
内容摘要:วันนี้ (19 พ.ย.) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมชี้แจงแน
วันนี้ (19 พ.ย.) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 กำชับจังหวัดประชาสัมพันธ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือให้ประชาชนทราบ พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายและดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่กำหนดอย่างรวดเร็วและรอบคอบ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคาร 3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในห้วงที่ผ่านมามีความรุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชนเป็นวงกว้าง หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังติดต่อกันเป็นเวลานานจนประชาชนไม่สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้ ด้วยความห่วงใยประชาชน คณะรัฐมนตรี นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มติเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนเพิ่มเติมใน 2 กรณี เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ภัยอย่างทั่วถึงและครอบคลุมสำหรับกรณีแรกคือการเพิ่มการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 โดยเพิ่มการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำล้อมรอบจนส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป และประชาชนที่ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัยแต่ส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,ปภประชุมชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย000 บาท สำหรับกรณีที่สองเป็นการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำท่วมขังบริเวณที่อยู่อาศัยประจำเป็นระยะเวลานานในช่วงฤดูฝน ปี 2568 นานกว่า 30 วันขึ้นไป โดยเป็นการจ่ายเงินแบบขั้นบันได ครัวเรือนละ 5,000 – 20,000 บาท ให้กับประชาชนในพื้นที่ 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ศรีสะเกษ สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง อุดรธานี อุทัยธานี และจังหวัดอุบลราชธานี รวมจำนวน 171,302 ครัวเรือน โดยใช้กรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 6,169.98 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
“สำหรับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำท่วมขังบริเวณที่อยู่อาศัยประจำเป็นระยะเวลานาน ได้แบ่งการให้ความช่วยเหลือออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ 1) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 31-60 วัน จะได้รับความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท 2) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 61-90 วัน จะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 10,000 บาท 3) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 91-120 วัน จะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 15,000 บาท และ 4) กรณีที่ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 121 วันขึ้นไป จะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนประสบอุทกภัยหลายครั้ง จะได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว” นายธีรพัฒน์ อธิบดี ปภ. กล่าว
นายธีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทั่วถึง ขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 ให้ประชาชนทราบผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของพื้นที่ และเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยให้จังหวัดประสานอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอย่างละเอียด รอบคอบ และยึดความถูกต้องเป็นสำคัญ ทั้งการทำประชาคมหมู่บ้าน การประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) ก่อนส่งข้อมูลให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อที่จะได้นำส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป”
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างรวดเร็ว ขอให้ประชาชนตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์ (Promptpay) กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อยก่อนยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย โดยประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะทำการอัปเดตข้อมูลให้ประชาชนทราบเป็นระยะต่อไป